วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

“ประพันธ์”แนะงานแรกจัดการพวกหมิ่นเบื้องสูง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2551 05:35 น.

“ประพันธ์”แนะงานแรกจัดการพวกหมิ่นเบื้องสูง เตือนอย่ากลัวว่าจะถูก
กล่าวหาเป็นพวกพันธมิตรฯ ไม่เช่นนั้นอยู่เฉยๆ ดีกว่า
ประพันธ์ ‐ สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้อง ประชาชนที่เคารพรักทุกท่านนะครับ และก็กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ชมอยู่
ทางบ้าน และก็พี่น้องประชาชนที่ชมอยู่ต่างประเทศทุกท่านนะครับ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้มีโอกาสมาปราศรัยพบปะกับพี่
น้องประชาชน ในบรรยากาศที่แตกต่าง และก็เป็นบรรยากาศในห้องส่ง ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยคุ้นเคยเลยนะครับ แม้ว่าจะมีพลัง
มือตบมาอยู่ในห้องส่ง จำลองบรรยากาศคล้ายกับที่เราชุมนุมกันมา 193 วัน แต่ก็บรรยากาศก็ยังไม่เหมือนบรรยากาศที่
ผ่านมา ผมคิดว่าบรรยากาศ 193 วัน ที่เราได้ร่วมกันต่อสู้มานั้น เป็นบรรยากาศที่ไม่ว่าใครก็ตาม ก็คงจะไม่สามารถ
จัดการแสดงให้เหมือน 193 วัน ที่เราจัดชุมนุมมาได้ เพราะนั่นคือความจริง และชีวิตจริงของพวกเราพี่น้องประชาชน
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครับ พี่น้องครับ พี่น้องที่เคารพรักครับ
วันนี้ผมมาพูดในบรรยากาศที่เราพึ่งจะได้รับทราบข่าวว่ามีพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
และก็คงจะเป็นความคาดหวังและก็ความชื่นชมของพี่น้องประชาชนที่อยากจะเห็นนักการเมืองคนหนุ่ม คนหนึ่งที่มีความ
มุ่งมั่นตั้งใจ ในการที่จะก้าวมาสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่ตั้งใจจะทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชน
ได้ก้าวเข้าสู่บททดสอบ และบทพิสูจน์ ซึ่งผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ รวมทั้งตัวผมก็ยินดีและอยากจะให้เวลากับ
ท่าน ได้พิสูจน์ความสามารถท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นผมคิดว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญ
ที่สุด และเป็นโอกาสสูงสุดที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับจากประเทศและจากประชาชน ในการที่จะก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่ง
นายกรัฐมนตรีครานี้
แต่สิ่งที่สูงสุดที่สุด สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ได้อยู่เพียงว่าการที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญ
และสิ่งที่สูงสุดที่สุด ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศได้เห็น ถึงความรู้
ความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานของท่าน นั่นคือท่านต้องนำประเทศไทยให้ก้าวพ้นวิกฤตให้ได้ และต้องนำ
ประเทศก้าวไปสู่การเมืองใหม่ ที่ประชาชนคาดหวังให้ได้ จึงจะผ่านด่านทดสอบที่สำคัญนี้ได้นะครับ
พี่น้องที่เคารพรักครับ การที่ได้มีโอกาสเช่นนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมอยากจะ
ตอกย้ำ และกล่าวต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศอีกครั้งหนึ่งว่า แยกไม่ออกจากการต่อสู้อย่างเอาจริงเอาจังของพี่น้อง
พันธมิตรฯที่กล้าหาญ กล้าเสียสละ และกล้าต่อสู้กับการเมืองที่ถูกครอบงำโดยระบอบทักษิณ แยกไม่ออกจากการต่อสู้
เสียสละชีวิตเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนชาวพันธมิตรฯที่ได้กล้าหาญกล้าต่อสู้กับการเมืองในระบอบเก่าอย่างเอาจริงเอา
จัง เพราะฉะนั้นชีวิตของพี่น้องประชาชน 11 ศพ บาดเจ็บสาหัส 21 ราย หรือว่าบาดเจ็บอีกมากมาย พิการอีกมากมาย
นับร้อยนั้น เป็นต้นทุนที่สูงยิ่ง จะเรียกว่าก้าวขึ้นมาท่ามกลางชีวิตและเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนที่ได้เสียสละก็ว่าได้ ซึ่ง
ตรงนี้ผมคิดว่าต้องตอกย้ำและฝากให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ตระหนักและสำนึกให้มากว่า สิ่งที่มีโอกาสสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
แยกไม่ออกจากการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยครับพี่น้องครับ ท่านนายกคนใหม่ คุณอภิสิทธิ์ เวช
ชาชีวะ หรือชาวพรรคประชาธิปัตย์ จะคิดอย่างไรก็ตามแต่ แต่ประวัติศาสตร์การเมืองหน้านี้ ไม่อาจที่จะมองข้ามพลังการ
ต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ได้ แล้วสองก็คือ พรรคประชาธิปัตย์จะปฏิเสธการที่การเมืองในระบอบทักษิณนั้น ครอบงำ
ประเทศมา 7‐8 ปี ที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านมาไม่ได้โดยเด็ดขาด และพรรคประชาธิปัตย์ โดยคุณอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ เคยปราศรัยเรื่องนี้ที่สนามหลวง ผมจำได้ครับ เพราะผมเป็นคนเขียนเอง เพราะฉะนั้นเมื่อสักครู่นี้ที่ อ.สมเกียรติ
เอาอันนี้มา เป็นที่ ASTV พิมพ์ขาย ของผมมีต้นฉบับครับ ในการต่อสู้คดี เพื่อการต่อสู้คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรค
ประชาธิปัตย์ ผมเป็นหนึ่งในทีมทนายความที่มีส่วนอย่างสำคัญในการเขียนคำให้การต่อสู้คดีนี้ ด้วยตัวผมเองเป็นเวลา
แรมเดือน ร่วมกับคณะทนายความอีก 10 กว่าท่าน แต่ประเด็นหลักทั้งหมดนี้ ระบอบทักษิณและข้อต่อสู้อื่นๆ 4 ประเด็น
ผมเป็นเลขาและเป็นคนรวบรวมทั้งหมด ซึ่งผมไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน และความเป็นจริงอันนี้ และการทำงานในส่วนนี้
คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านนายกฯ ชวน และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค คงจะทราบดีว่า ผมประพันธ์
คูณมี ก็เป็นส่วนหนึ่งในทีมทนายที่เป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้และเขียนคำให้การ ต่อสู่คดียุบพรรคคดีนี้ และทำให้พรรค
ประชาธิปัตย์ชนะคดีในคดีนี้มาได้ครับ
ประเด็นสำคัญก็คือว่า ทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้ เพราะต้องการจะทวนความจำและตอกย้ำให้พรรคประชาธิปัตย์
และท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ทราบว่า ท่านเองเคยปราศรัยและวิพากษ์การบริหารของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เรียกว่า ระบอบ
ทักษิณ ไว้โดยชัดเจนในคำปราศรัยของท่าน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2549 ที่สนามหลวง ในการปราศรัยใหญ่ของ
พรรคประชาธิปัตย์ และมีคำปราศรัยของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายถาวร เสนเนียม รวมด้วย นายถาวร เสนเนียม
ปราศรัยที่ภาคใต้ สงขลา ในการวิพากษ์ระบอบทักษิณในทำนองเดียวกัน สาระสำคัญทั้งหมดที่เรากล่าวหาถึงระบอบ
ทักษิณนั้น เป็นไปดั่งที่ อ.สมเกียรติ ได้กล่าวไปแล้วในคำพิพากษาฉบับนี้ ซึ่งเราได้สรุปความเลวร้ายของการเมืองใน
ระบอบทักษิณนั้นไว้ชัดเจน รวมแล้ว 7‐8 ประการ 1. คือการเมืองระบอบทักษิณเป็นตัวทำลายระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.คือการเมืองระบบทักษิณแทรกแซงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญตลอดระยะเวลาที่มี
อำนาจ ทำให้องค์กรอิสระไม่สามารถตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมืองได้ และเป็นปฐมเหตุ เป็นต้นเหตุทำให้
ระบอบทักษิณทุจริตทำให้บ้านเมืองเสียหายถึง 1.8 แสนล้าน ตามที่ คตส.ได้ตรวจสอบ 3. คือระบอบทักษิณครอบงำ
สภาและวุฒิสภา ตลอดระยะเวลาที่ทักษิณปกครองประเทศ เขาไม่เคยไปตอบกระทู้ ตอบญัตติ ไม่เคยถูกอภิปราย เพราะ
เขาครอบงำวุฒิสภาและ ส.ส.ไว้เป็นลูกน้อง เป็นสภาทาส ทำลายหลักการระบอบประชาธิปไตย และหลักการตรวจสอบ
โดยสภา โดยสิ้นเชิง 4.คือ เขาแทรกแซงสื่อ และทุกวันนี้สื่อที่ถูกระบอบทักษิณแทรกแซงจังทำหน้าที่รับใช้ ปกป้องระบอบ
ทักษิณ และคอยบอนเซาะบอนไซรัฐบาลใหม่อยู่ทุกวัน คุณจะจัดการอย่างไร แล้วต่อมาก็คือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น
ผู้ปกครองบริหารประเทศที่ใช้อำนาจแต่เพียงผู้เดียว และใช้อำนาจนั้นไปเพื่อประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจตนและครอบครัว
ญาติพี่น้อง แต่งตั้งคนในวงศ์ตระกูลญาติพี่น้องตัวเองให้ก้าวหน้า ดำรงตำแหน่งในทางราชการหรือในทางการเมือง เป็นที่
ชัดเจน ประการต่อมาคือ ระบอบทักษิณเป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง แตกแยกในสังคม ในประเทศ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ข้อเท็จจริงอันนี้คือข้ออภิปราย และข้อกล่าวอ้าง และข้อโต้แย้ง ข้อต่อสู้ที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้เป็นข้อโต้แย้งว่า
ระบอบทักษิณเลวร้ายเช่นนี้จริง การพูดทั้งหมด การปราศรัยทั้งหมด รวมทั้งปราศรัยว่าระบอบทักษิณเป็นการเมืองที่ทุจริต
คอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวงมากที่สุด ก็ปรากฏอยู่ในคำต่อสู้คดีนี้ นั่นแสดงให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็รู้ถึงภัยอันตราย
อันยิ่งใหญ่ของระบอบทักษิณ และยอมรับว่า ระบอบทักษิณเป็นต้นเหตุ ต้นตอของปัญหาของประเทศชาติ ทั้งหมดนี้ได้
สรุปในช่วงสุดท้ายของการต่อสู้คดีเรื่องนี้ว่า การกล่าวปราศรัยของหัวหน้าพรรค ผู้ถูกร้องที่ 1 นั่นก็หมายถึง หัวหน้าพรรค
ประชาธิปัตย์ คือคุณอภิสิทธิ์ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่กล่าวปราศรัยเกี่ยวกับการกระทำและพฤติกรรม
ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดระยะเวลาที่บริหารประเทศ จึงเป็นเรื่องจริงทั้งสิ้น คุณยืนยันและคุณยอมรับแล้วว่าระบอบ
ทักษิณที่คุณกล่าวประณามมาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ปัญหาก็คือว่า วันนี้รัฐบาลประชาธิปัตย์ ท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ
แล้ว ท่านจะจัดการกับระบอบทักษิณ ที่เห็นว่าเป็นอันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และสร้างความ
เสียหายให้กับบ้านเมือง และยังทิ้งซากเดนของอำนาจไว้อยู่ในกลไก ทั้งระบอบเศรษฐกิจ ระบอบราชการ ระบอบการเมือง
อย่างไร นี่คือปัญหาที่ท้าทายรัฐบาลใหม่ และพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ท่านนายกฯ ได้รับตำแหน่ง ได้รับพระบรมราช
โองการโปรดเกล้าฯ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้หลายอย่าง ผมก็เลยต้องฝากถามไปถึงท่านนายกฯ คนใหม่ว่า ท่านจะจัดการกับ
ระบอบทักษิณที่สร้างความเสียหายไว้กับบ้านเมืองอย่างไร นี่คือคำถามและโจทย์ข้อใหญ่ของนายกฯ ที่ชื่ออภิสิทธิ์ ครับพี่
น้องครับ
นอกจากโจทย์ในประเด็นข้อนี้แล้ว ต้องยอมรับว่า ในช่วงเวลาที่รัฐบาลทักษิณปกครองบ้านเมือง และต่อเนื่อง
มาจนถึงรัฐบาลสมัคร สมชายนั้น เป็นเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ย่อมรู้ดีว่า ตัวเองตกอยู่ในฐานะขมขื่นเพียงใด ถูกกีดกัน
เพียงใด ไม่ให้ออกสื่อ ไม่ให้พูด ถูกแทรกแซงในทางการเมืองอย่างไร ถูกเอารัดเอาเปรียบในการแข่งขันเลือกตั้ง ถูกโกงการ
เลือกตั้งมาอย่างไร ผมเข้าใจว่าท่านคงเข้าใจดีอยู่แล้ว ว่าความขมขื่นที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับไม่น้อยกว่าพี่น้องประชาชน
พันธมิตรฯ ที่ได้รับจากระบอบทักษิณ เลวร้ายถึงขนาดมีระเบิดยิงใส่พี่น้องผู้ชุมนุมบาดเจ็บล้มตายมากมาย นี่คือความขม
ขื่นของประเทศ และแผลร้ายจากระบอบทักษิณครับพี่น้องครับ
ปัญหาก็คือว่า ผมดีใจครับที่ท่านบอกว่า ท่านก้าวมารับตำแหน่งแล้ว สิ่งแรกที่ท่านต้องทำและเรื่องยิ่งใหญ่
ที่สุดคือเรื่องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ว่าท่านจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และเทิดทูนไว้เหนือเกล้า ด้วยสำนึก
ในพระมหากรุณาธิคุณ ผมก็ต้องมีคำถามแทนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศเหมือนกันว่า แล้วจะจัดการอย่างไรกับ
กระบวนการทำลายสถาบันที่ออกเผยแพร่ความคิดผ่านเว็บไซต์ และโจมตีสถาบันอย่างรุนแรง รวมทั้งเผยแพร่ทาง
หนังสือพิมพ์ Economist เร็วๆ นี้ ก็ยังดำเนินการอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งคดีของนายจักรภพ นายวีระ และผู้ที่หมิ่นพระ
บรมเดชานุภาพ ยังไม่ถูกฟ้องจนทุกวันนี้ ท่านจะกล้าหาญและกล้าดำเนินการ หรือพูดแต่เพียงให้สวยหรูเท่านั้นครับ นี่ก็
เป็นโจทย์ ส่วนพวกเราพันธมิตรฯ หรือพวกเราที่ถูกข้อกล่าวหา รัฐบาลไม่ต้องมาช่วยพวกเรา เราพร้อมจะเดินเข้าสู่
กระบวนการยุติธรรม และพิสูจน์ความผิด ความจริงของพวกเราตามกระบวนการยุติธรรม แต่ต้องเอาไอ้พวกที่ลอยนวลอยู่
มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วครับพี่น้องครับ
ที่ผมมาพูดวันนี้ผมไม่ได้ต้องการให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ หรือคุณอภิสิทธิ์ ไปจองล้างจองผลาญ ไม่ใช่ครับ หรือ
ไปแก้แค้นระบอบทักษิณ แต่มันเป็นสิ่งที่ท่านเคยพูดไว้แล้วว่าระบอบทักษิณมันชั่วร้ายอย่างนี้ๆ ท่านจะทำตัวของท่าน
เหมือนรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ หรือเปล่า เมื่อมีอำนาจขึ้นมาแล้วก็ประนีประนอมกับระบอบทักษิณ และกลัวว่า ถ้าจะ
ดำเนินการกับคนในระบอบทักษิณกลัวจะถูกบอกว่า เป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯ ผมถามว่า ถ้าการจัดการกับคนชั่วที่
ละเมิดสถาบัน จัดการกับระบอบการเมืองที่โกงบ้านกินเมือง และจัดการกับความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เอาคนผิดมา
เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย ส่งเสริมข้าราชการที่ดีๆ ให้ได้เข้ารับตำแหน่งหน้าที่ ที่คืนความยุติธรรมให้กับเขา
และก็ปฏิรูปสื่อ สื่อซึ่งถูกระบอบทักษิณครอบงำ กลับคืนมาสู่ความมีอิสระเสรี ให้คนดีๆ ให้เขาได้มาจัดรายการ ท่านกลัว
ท่านจะเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรหรือ ถ้าท่านกลัวว่าท่านจะเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯ ท่านก็ควรจะอยู่เฉยๆ หรือแบบ
เดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ์ ก็เท่ากับเป็นพวกเดียวกับระบอบทักษิณ ไม่แตกต่างกันเลย
เพราะฉะนั้นการดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้อง เป็นสิ่งที่ท่านนายกคนใหม่จะต้องมีคำตอบ
ให้กับพี่น้องประชาชน สิ่งที่ท่านต้องทำเพื่อภารกิจในการกวาดล้างการเมืองในระบอบทักษิณนั้น ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อเอา
ใจพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อจงเกลียดจงชังคนใส่เสื้อแดง แต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำเพื่อสถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติต่างหากครับ พี่น้องครับ
เพราะการเมืองโดยระบอบทักษิณนั้น เป็นการเมืองที่ทำลายบ้าน ทำลายเมือง กินบ้าน กินเมือง ทำลาย
สถาบัน ถ้าคุณไม่กล้าหาญ ไม่กล้าต่อสู้ กับสิ่งเหล่านี้ การเปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่ การมีนายกคนใหม่ก็ไร้ประโยชน์สำหรับ
คนไทยทั้งประเทศครับ พี่น้องครับ หาได้เกิดประโยชน์อื่นใดเลย เป็นแต่เพียงได้ชื่อว่าได้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ผมคิด
ว่าไม่น่าจะเป็นความภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อท่านบอกว่า ท่านจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้โดยจะยุติการเมืองที่ล้มเหลว
ต้องขอความอธิบายที่เป็นรูปธรรมว่า การเมืองที่ล้มเหลวคือการเมืองภายใต้ระบอบทักษิณใช่หรือไม่ แล้วถ้าใช่ก็ควรที่
จะต้องจัดการ ตามข้อต่อสู้ที่ท่านได้เคยประณามระบอบทักษิณเอาไว้ ถ้ามิเช่นนั้นแล้วก็เท่ากับละทิ้งภาระหน้าที่ แล้ว
ทรยศกับอุดมการณ์ของชาติ บ้านเมืองใช่ไหมครับ
ส่วนการที่จะแก้ไขปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็บอกไปแล้ว จะแก้ไขได้อย่างไร ถ้ายังปล่อยให้มีเว็บ
ไซด์เหล่านี้ โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ ปล่อยให้คนเหล่านี้มีอำนาจ และใช้สื่อใช้วิทยุชุมชนโจมตีสถาบันอยู่ทุกวัน
ตรงนี้ท่านก็ต้องกล้าหาญเช่นเดียวกันใช่ไหมครับ พี่น้องครับ พี่น้องที่เคารพรักครับ มาวันนี้ยังไม่ได้เป็นการอภิปรายหรือ
ปราศรัยเพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล นายกอภิสิทธิ์ นะครับ แต่มาเพื่อฝากคำถามและฝากโจทย์ว่า ถ้ายังขวยเขินและเอียง
อายที่อยากจะเป็นเพื่อน เป็นมิตรกับพี่น้องพันธมิตรฯแล้ว ผมคิดว่าท่านคิดผิด ท่านควรจะต้องประเมินเสียใหม่ ว่าท่าน
จะต้องเป็นนายกอยู่ภายใต้อ้อมกอดของประชาชนประเภทไหน หรือจะอยู่ภายใต้อ้อมกอดของคนประเภทเสื้อแดงหยิบมือ
เดียว ที่มีแต่ก่อความวุ่นวายไว้กับบ้านเมืองใช่ไหมครับ
ถ้าหากว่าท่านจะบอกว่าจะนำหลักนิติธรรม หลักนิติรัฐมาใช้ จะต้องไม่มีเหตุการณ์อย่างวันที่มีการโหวตนายก
ฯที่หน้าสภา เสื้อแดงเพียง 10 คน 20 คน ก็สามารถทำลายทรัพย์สิน ทำลายชีวิตร่างกายของผู้บริสุทธิ์อย่างไม่ควรจะ
เกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้นบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าจะยึดหลักนิติธรรม หลักนิติรัฐ จะต้องไม่มีเหตุการณ์แบบนี้
เกิดขึ้น และในวันแถลงนโยบาย ยิ่งจะต้องไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ใช่ไหมครับ ถ้าหากมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ย่อมแสดงให้
เห็นว่าข้าราชการ ตำรวจ กลไกฝ่ายปกครองวันนี้ ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของระบอบทักษิณ ถ้าท่านไม่กล้าหาญที่จะ
โยกย้ายข้าราชการตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง รวมทั้งคณะกรรมการ องค์การบอร์ดรัฐวิสาหกิจ บอร์ดธนาคารชาติ
บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ ที่เป็นคนในเครือข่ายของระบอบทักษิณแล้ว ก็เปล่าประโยชน์กับการมาเป็นนายกในช่วงนี้ ครับพี่
น้องครับ
เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี้ผมจึงอยากจะฝากไปถึงนายกคนใหม่แต่เพียงว่า วันนี้ต้องประเมินพี่น้องพันธมิตรฯ และ
บทบาทการชุมนุมการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯเสียให้ถูกต้องว่าเป็นบทบาทอันสร้างสรรค์ เป็นบทบาทที่ควรเคารพ เป็น
บทบาทที่ควรยกย่องหรือไม่ ถ้าไม่กล้ายกย่องคนที่ออกมาต่อสู้เสียชีวิต เพื่อปกป้องประเทศชาติ ปกป้องประชาชน
ปกป้องระบอบประชาธิปไตย ปกป้องระบอบสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ถ้าว่าท่านจะเป็นนายกของใครครับ
แล้วถ้าไม่ให้โอกาสคนดีๆเหล่านี้มามีส่วนร่วมในการปกครองประเทศชาติ มาบริหารบ้านเมือง ท่านจะเอาใคร
มาทำงานเพื่อประเทศชาติ บ้านเมือง หรือจะยอมอยู่ภายใต้ระบอบทักษิณเหมือนเดิมครับ พี่น้องครับ ทั้งหมดนี้เป็นโจทย์
และเป็นคำถามที่อยากจะฝากไปถึงท่านนายกฯคนใหม่ เท่านั้นเองว่า ถ้าอยากจะเป็นนายกที่อยู่ในดวงใจของพี่น้อง
ประชาชน ทั้งประเทศ ท่านไม่อาจทำให้คนทั้ง 60 กว่าล้านเนี้ย รักท่านได้หรอก แต่ท่านต้องทำให้คนอย่างน้อย ส่วนมาก
ที่สุดของประเทศนิยมชมชอบในตัวท่าน เพราะคนที่ไม่ดี ก็ยังต้องมีอยู่ในสังคมเสมอ แต่ต้องทำให้คนดี ทำให้คนส่วนใหญ่
ของประเทศชื่นชมท่าน ผมก็คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้วครับ
แต่การจะเป็นนายกที่จะนำพาประเทศชาติ บ้านเมืองไปได้นั้น ในสถานการณ์อย่างนี้ ต้องกล้าหาญ และกล้า
หาญอย่างมีหลัก และอย่างมีคุณธรรม อย่างเคารพกฎและกติกา และกฎหมายของบ้านเมือง บนหลักการนั้นท่านทำไป
เลยครับ ถ้าพวกผมหรือพี่น้องพันธมิตรฯทำอะไรผิด ท่านไม่ต้องมาช่วย แต่ถ้าคนอื่นทำผิด ท่านอย่าปล่อยให้ลอยนวลก็
แล้วกัน และสุดท้ายที่อยากจะฝากก็คือว่า ท่านต้องยอมรับความเป็นจริงว่า 7 ปี มานี้ ที่ระบอบทักษิณปกครองบ้านเมือง
และมีรัฐบาลนั้น วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเราพี่น้องประชาชนพันธมิตรฯได้หยุดระบอบทักษิณ และเปิดโอกาสให้ท่านเป็น
นายก วันนี้เป็นวักแรกที่ทักษิณไม่มีใครเป็นรัฐบาล ไม่มีใครเป็นตัวแทนนายกฯ เป็นนอมินีของเขาอีกต่อไป แต่ว่าทักษิณ
นั้นจะต้องหมดไปจากประเทศไทยแผ่นดินนี้ถึงจะสงบสุข บรรดาคนที่เคลื่อนไหวก่อกวนอยู่นี้เป็นเพียงส่วนน้อย ถ้าตัดท่อ
น้ำเลี้ยงจากคนที่ส่งมาจากระบอบทักษิณเสีย ก็หมดน้ำยาที่จะเคลื่อนไหว และจะเป็นคนที่ไม่ได้รับการตอบรับจากสังคม
ส่วนใหญ่ของประเทศ คนที่เคยรับใช้ระบอบทักษิณ เวลานี้อยู่ในกลไกราชการ อยู่ในรัฐวิสาหกิจ อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
อยู่ในกองทุนอยู่ในการเงิน อยู่ในวงการต่างๆ ยังฝังตัวซ่อนตัวอยู่ เมื่อวันนี้ท่านมีโอกาสแล้ว ท่านจะเอาคนพวกนี้ออกไป
จากระบบหรือไม่ แล้วเปิดทางให้คนดีๆ เข้ามา ไม่ว่าเขาจะเป็นพันธมิตรฯ หรือไม่เป็นพันธมิตรฯ แม้กระทั่งคนเสื้อแดง
ถ้าเขาเป็นคนดีและพร้อมจะอยู่ในตำแหน่งบริหาร ต้องกล้าที่จะตั้งเขา ไม่ใช่ว่า อ๋อคนนี้เก่ง คนนี้มีความรู้
ความสามารถ แต่ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ เลยไม่กล้าให้เขามาทำงานรับใช้บ้านเมือง ถ้าคิดอย่างนั้นก็ฆ่าตัวตายตั้งแต่วัน
แล้วแล้วครับพี่น้องครับ เพราะฉะนั้นจึงหวังว่า เมื่อท่านได้มีโอกาสและได้อำนาจรัฐนี้อยู่ในมือ จงใช้อำนาจนั้นให้เป็น ใช้
อำนาจจัดการตามกฎหมายกับคนชั่ว คนผิด ให้โอกาสกับคนดีได้ทำงานให้กับบ้านเมือง และอย่าคำนึงถึงคนดีเฉพาะพวก
ตัวเอง คนดีในประเทศมีอยู่ทั่วแผ่นดิน ต้องเอาคนดีๆ มาช่วยกันทำงานให้กับบ้านเมือง จึงจะได้รับความร่วมมือและความ
สามัคคีจากคนในชาติ เพราะท่านก็พูดแล้วว่า วิกฤตครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ท่านคนเดียวทำไม่งานไม่ได้ และท่านภายใน
พรรคลำพังก็ทำงานไม่ได้ ต้องสอดส่ายสายตาหาคนดีๆ ทั้งแผ่นดินนี้มาร่วมกันทำงาน ไม่ว่าเขาจะใส่เสื้อสีอะไร ถ้าเขา
เป็นคนดีและพร้อมจะอยู่ในแนวทางหลักการเดียวกัน ผมคิดว่าน่าจะเป็นหลักการที่ดีที่นายกฯ พึงจะดำเนินการในขณะนี้
ครับ
พี่น้องที่เคารพรักครับ ตลอดเวลา 193 วันมา ผมปราศรัยอภิปรายเพื่อวิพากษ์ระบอบทักษิณและการบริหาร
ของรัฐบาลหุ่นเชิดที่ไม่ชอบธรรม แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ผมอภิปรายและเสนอแนะต่อนายกฯ คนใหม่ที่ไม่ใช่ระบอบทักษิณ
ด้วยความคาดหวังว่า ท่านจะไม่ทำตัวประนีประนอมกับความชั่วร้ายในระบอบทักษิณ แต่เมื่อใดที่ท่านยอมประนีประนอม
กับระบอบทักษิณ ท่านจะสูญเสียโอกาสจากการที่จะเป็นรัฐบุรุษของประเทศโดยทันทีครับ แล้ววันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดของ
นายกฯ อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีประชาชนช่วยล้มระบอบทักษิณลงไปให้ แต่ถ้าท่านลืมคุณูปการของพี่
น้องประชาชนเหล่านี้ และไม่นำเจตจำนงและเจตนารมณ์ของพวกเรา ไปแปรเป็นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพราะคน
เหล่านี้ไม่ได้ต้องการเพียงมีรัฐบาลมาผสมกัน และได้โอกาสเป็นเสนาบดี แต่เขาต้องการเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนไปสู่การเมือง
ใหม่ที่ดีกว่าวันนี้ ท่านต้องนำประเทศให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้และก้าวไปสู่การเมืองใหม่ การเมืองที่โปร่งใส ที่มีหลักธรรมาภิ
บาล และมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นี่คือภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พี่น้องพันธมิตรฯ เฝ้าจับตามองท่านอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่า
ท่านจะมองพวกเขาหรือมีท่าทีต่อพวกเขาอย่างไร แต่เขามีเกียรติและมีความยิ่งใหญ่สำหรับประเทศนี้เสมอครับ
วันนี้เขาเฝ้าดูและให้โอกาสท่าน ด้วยคาดหวังว่า ท่านจะเข้าใจความรู้สึกในใจของพวกเขาทุกคน ว่าเขาไม่ได้
ตาย เขาไม่ได้เสียชีวิต เขาไม่ได้มาชุมนุมเพื่อบาดเจ็บ พิการ เพียงเพราะให้ท่านทั้งหลายได้มานั่งตำแหน่งเสนาบดีแน่นอน
แต่เขามีความมุ่งหวังและคาดหวังจากตัวท่านมากกว่านั้น เหมือนอย่างที่ผมได้กล่าวมา ผมจึงหวังว่า เสียงของพวกเรา
และเสียงของผมจะเป็นข้อเตือนใจสำหรับการเข้าดำรงตำแหน่งนายกฯ ของท่านในวันนี้ อาจจะไม่ใช่ยาหวาน อาจจะไม่ใช่
การไปประจบสอพลอพินอบพิเทาท่าน แต่เป็นยาขมที่มาจากความปรารถนาดี และด้วยกัลยาณมิตร หวังว่าท่านคงจะรับ
ฟังและฟังเสียงของพี่น้องประชาชนที่นี่และพวกเรา ขออวยพรแล้วกันให้ท่านประสบผลสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาล และ
บริหารชาติบ้านเมือง แต่ขอให้เป็นความสำเร็จบนความปรารถนาและเจตจำนงของพี่น้องประชาชนที่ได้เสียสละชีวิตต่อสู้
มาร่วมกัน อย่าเป็นเพียงความสำเร็จและเจตจำนงของนักการเมืองเท่านั้นครับ ขอบคุณมากครับ__

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น