วันพฤหัสบดีที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2551

สมเกียรติ"หวัง “นายกฯ มาร์ค” ฝ่าข้ามวิกฤต


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2551 05:35 น.

"สมเกียรติ"หวัง “นายกฯ มาร์ค” ฝ่าข้ามวิกฤติ ล้างบางระบอบทักษิณ ยกคำวินิจฉัยยุบทรท.ระบุชัดความเลวร้ายระบอบแม้ว 6 ประการ ตามที่ ปชป.ก็เคยชำแหละไว้แล้วพร้อมเตือนอย่าดูแคลน-ทรยศประชาชน ย้ำวันนี้ยังให้โอกาส ถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญและล้างบางระบอบทักษิณ ก็พร้อมจะจับมือร่วมกันฟันฝ่าสวัสดีครับพี่น้องประชาชนทุกท่าน ผมต้องขอคารวะอย่างสูงต่อพี่น้องประชาชนในประเทศ ต่างประเทศ และในห้องส่งวันนี้พี่น้องได้รับข่าวดีแล้วใช่ไหมครับ ว่าเรามีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 27 ของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งประชาชนแล้วก็สื่อสารมวลชน รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวังว่าประเทศชาติจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และประชาชนได้ประโยชน์สมดังที่ท่านพุทธทาสภิกขุ บอกว่า ระบอบประชาธิปไตย ผลประโยชน์ของประชาชนต้องเป็นใหญ่ การที่เราได้รับ
นายกรัฐมนตรีคนใหม่ น่าจะเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนในวันนี้ ผมอยากจะเรียนให้พี่น้องทราบว่า เรามีนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนขับไล่มาหลายคนแล้ว นายกรัฐมนตรี คนที่ 23 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ปี 44, 45, 46, 47, 48,49 รวม 6 ปี เราขับไล่มาตลอดเลย แล้วเราก็ได้นายกรัฐมนตรีที่เราไม่ขับไล่ แต่ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน และน่าเบื่อที่สุด คนที่ 24 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ พอคนที่ 25 เราขับไล่อย่างดุเดือดเผ็ดมัน ปักหลักกัน แล้วเรา
ก็เรียกเขาในนามว่า สุนัขจิ้งจอกหอกหัก จำได้ไหมครับ นายกรัฐมนตรี คนที่ 25 เราขับไล่กันสุดใจเลย พี่น้องประชาชนต้องถูกทำร้ายร่างกายและเข่นฆ่า แต่ยังไม่เสียชีวิต พอมานายกรัฐมนตรี คนที่ 26 สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เราเรียกว่า รัฐบาลทรราช ฆาตกรที่เข่นฆ่าประชาชน มีการตายถึง 9 คน แล้วบาดเจ็บอีก 500‐600 คน อันนี้เป็นปัญหาสำคัญที่สุดเราคุ้นเคยกับการขับไล่รัฐบาลมานาน แล้วการเมืองใหม่เกิดขึ้น ผู้คนเรียนรู้ผ่านการชุมนุมประท้วง ผ่าน ASTV ผ่านการจัดตั้งเครือข่ายใหม่ของพวกเขา ที่เรียกว่า พันธมิตรฯ มากกว่า 10 ล้านคน การก่อตัวของการเมืองภาคประชาชนเหล่านี้ จึงทำให้รัฐบาลใหม่ถูกคาดหวังสูง ถูกกดดันสูง แล้วถูกตรวจสอบสูงมาก เพราะฉะนั้นจะทำการเมืองเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว เราก็มีความหวัง และให้โอกาส และให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ที่จะฟันฝ่าข้ามวิกฤตการณ์นี้ไป ผมไม่ได้หวังอะไรมากกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หวังแค่ว่า ฝ่าข้ามวิกฤตการณ์ของระบอบทักษิณและกวาดล้างระบอบทักษิณให้สิ้นซาก ส่วนเรื่องอื่นๆ ลดลงมานิดหน่อยก็ได้ แต่ต้องจัดการระบอบทักษิณให้สิ้นซากก่อน
ใช่ไหมครับพี่น้องครับทีนี้เพื่อประกอบการปราศรัยของผม ซึ่งจะเดินสายปราศรัยหลายท้องที่ หลายจังหวัด อยากจะบอกว่า เวลาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลใหม่ เราจะต้องพูดว่า เร็วเกินไปที่ผมจะวิจารณ์ เพราะเขายังไม่ได้ทำงานเลย หน้าตาของคณะรัฐมนตรียังไม่เห็นเลย การจะด่วนวิจารณ์เราเห็นว่าจะไม่เกิดความเป็นธรรมแก่เขา แล้วเราไม่ให้โอกาสเขา เอะอะก็วิจารณ์ก่อนเลย ยังไม่เห็นตัวละคร ยังไม่เห็นความมุ่งมั่น ยังไม่เห็นการแถลงนโยบายเลย แต่เราจะมาฟื้นความหลังที่ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เคยกล่าวไว้ในรัฐสภา และเคยต่อสู้ในการยุบพรรคไทยรักไทยมา ผมอยากจะเสนอเอกสารที่เรียกว่า บันทึกประวัติศาสตร์ 2 เล่ม ประกอบการอภิปรายของผม เพราะว่าการอภิปรายของผมต้องระมัดระวัง เพราะว่าเราต้องให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคอื่นเราให้โอกาสพวกมันมานานแล้วใช่ไหมครับ นานแล้ว แล้วเราก็ให้โอกาสทั้งสภาแล้ว ยังเหลือพรรคเดียวที่ยังไม่ได้ให้โอกาสใช่ไหม เพราะฉะนั้นแม้จะเป็นการเมืองเก่าเราต้องทดสอบดูว่า ลองให้โอกาสเขาดู มันเหลือพรรคเดียวทำไงได้พี่น้อง ใช่ไหมครับแต่ว่า ถ้าเราพูดกันแบบอ่อนโยนและเป็นหลักทางพุทธศาสนากตัญญู พูดได้ตรงๆ เลยนะครับ โดยไม่ต้อง หากไม่มี
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ อภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ ใช่ไหมครับ แต่ว่า ฯพณฯ ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อาจจะบอกว่า หากไม่มีใครบางคนที่ จ.บุรีรัมย์ ก็ไม่มีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เช่นกันใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะฉะนั้นพอพูดว่า หากไม่มีใครบางคนใน จ.บุรีรัมย์ และกลุ่ม ส.ส.ของเขา ก็ไม่มีนายกฯ ที่ชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คนที่ 27 แต่เราก็ไม่อาจจะวิจารณ์เกินนั้นได้ เพราะมันเป็นไฟต์บังคับจริงๆ มันบีบจริงๆ มันบีบจริงๆ ถ้าพูดแบบหัวใจ จริงๆ คือว่า ต้องอดทนอดกลั้น และฝ่าฝืนความรู้สึก ลองให้โอกาสโอบามาดูสักครั้งหนึ่ง เป็นยังไงครับพี่น้อง พี่น้องครับ เอกสารที่ผมจำเป็นต้องเอามาย้ำเตือน ไม่ใช่ย้ำเตือน ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวนะครับ ย้ำ เตือนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะย้ำเตือนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เอกสารนี้ก็คือ คำวินิจฉัยคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทย และไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ครึ่งหนึ่งเป็นยุบพรรคไทยรักไทย ครึ่งหนึ่งไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ เหตุที่ไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์และยุบพรรคไทยรักไทย มีอะไรเดี๋ยวผมจะคุยต่อไป เอกสารเล่มที่ 2 สำคัญ
มากครับ เป็นคัมภีร์ที่พรรคประชาธิปัตย์เขียนขึ้นเอง เขียนในการแถลงปิดคดี ต่อสู้เพื่อไม่ให้มีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ในรูปนี้ท่านจะเห็น ฯพณฯ รัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีอาวุโสของประเทศไทย คนที่อยู่ด้านมือจับของผม อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ซื่อสัตย์ของประเทศ ชวน หลีกภัย คนกลางไม่ใช่ว่าที่แล้ว นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ของประเทศไทยแล้วคนด้านนี้ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คุณบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ทุกคนมีประสบการณ์หมด ในเอกสารทั้งหมด 142 หน้า เขาได้พูดถึงความเลวร้ายของระบอบทักษิณไว้ ที่ผมจำเป็นต้องเอามาแสดง ก็ต้องการให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ศึกษาความเลวร้ายของระบอบทักษิณละเอียดลึกซึ้งที่สุด ดังนั้นมาเป็นรัฐบาลเองต้องจัดการให้เรียบร้อยใช่ไหมครับพี่น้อง ต้องจัดการให้เรียบร้อย เพราะในเอกสารเล่มนี้เป็นเอกสารที่ผมจะลองอ่านดูซัก คำนิยมระบอบทักษิณ ในหน้า 76 ดูก็ได้ พี่น้องลองฟังดูก็ได้นะครับระบอบทักษิณ หมายถึง วิธีการดำเนินการทางการเมืองโดยการใช้เงินซื้อนักการเมือง ซื้อพรรคการเมืองก็คือพรรคเสรีธรรม พรรคชาติพัฒนา พรรคความหวังใหม่ โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม พูดง่ายๆก็คือใช้เงินเป็นใหญ่ ใช้เงินทำลาย
ความชอบธรรมทั้งหมด และการบริหารประเทศที่ยึดตัวตน และยึดแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหลัก ขาดความเคารพในเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะหลักการของการตรวจสอบ และถ่วงดุล องค์กรอิสระและประชาชน แต่เข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระ สื่อมวลชน องค์กรของรัฐ แทบทุกองค์กร ประโยคต่อไปสำคัญนะครับ ที่จะเป็นกุญแจสำคัญที่ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะต้องคำนึง เพราะว่าหนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือของพรรคประชาธิปัตย์เอง โดยไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้อง ทำลายระบบคุณธรรม สร้างความแตกแยกของในชาติ อย่างไม่เคยพบมาก่อน และมีการทุจริตอย่างมโหฬาร นี่คือนิยามของระบอบทักษิณคำที่ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะไปจัดการระบอบทักษิณก็คือ ทุจริตอย่างมโหฬาร บริหารโดยใช้ระบบคุณธรรม ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้อง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล เห็นไหมครับ พรรคร่วมรัฐบาลเราเห็นๆ กันอยู่นะครับ มันจะต้องมีระบบโปร่งใส ตรวจสอบได้ แล้วก็ชี้แจงให้ประชาชน แล้วก็ประชาชนเข้าตรวจสอบได้ พี่น้องครับในเอกสารเล่มนี้นี่ เป็นคำแถลงปิดคดีของเหล่านักกฎหมาย และนักวิชาการประจำของพรรคประชาธิปัตย์ และนักวิชาการอื่น ที่พรรคประชาธิปัตย์เชิญมาร่วมกันเขียนเรียงความที่ดีที่สุด 142 หน้าเนี้ย เพื่อจะบอกว่าความเลวร้ายและระบอบทักษิณมีอยู่ 6 ประการ
1. ทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราไม่ต้องพูดรายละเอียดกัน
2. แทรกแซงองค์กรอิสระ และองค์กรของรัฐทุกองค์กร
3. แทรกแซงสื่อมวลชน
4. ทำลายระบบคุณธรรม
5. สร้างความรุนแรงแก่สังคม ก็คือ ฆ่าพี่น้องในภาคใต้ แล้วก็ยาเสพติด ฆ่าตัดตอน 2,783 ศพ แล้วก็มุ่งหา
ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
ผมหยิบมาซักข้อก็ได้ ที่ ฯพณฯ ท่านอภิสิทธิ์ จะถูกสังคมถามกัน แล้วผมก็มีความหวังมากก็คือ แทรกแซงสื่อมวลชนอันดับแรกพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไปจัดการ NBT ก่อนเพื่อนเลยใช่ไหมครับพี่น้อง เพราะในช่วงเวลาที่ผมทำงานอยู่ในสภาเนี้ย เราพูดกันเรื่องการแทรกแซงสื่อมวลชน ของนายจักรภพ เพ็ญแข ที่เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และควบคุม เราต้องไปจัดการกับกรมประชาสัมพันธ์ โทรทัศน์ช่อง 11 NBT ดึงโทรทัศน์นี้ไม่ให้ไปรับใช้ระบอบทักษิณ เอามารับใช้การเคลื่อนไหว และการแสดงออกของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ และผู้เสียภาษีใช่ไหมครับพี่น้อง ผมยังจำคำพูดของ ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ดีว่า"หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะให้แบ่งเวลาให้นายกฯพบประชาชน ฝ่ายค้านพบประชาชน ถ้าเป็นไปได้ ผมขอการเมืองภาคประชาชนพบประชาชนดีไหมครับ"
ถ้าทำได้อย่างนี้นี่ การเมืองจะลดการแบ่งแยกรุนแรงลง เพราะว่าคนจะเรียนรู้เท่ากันทั้งประเทศ พอคนเรียนรู้
เท่ากันทั้งประเทศเนี้ย การเลือกตั้งในสหรัฐฯก็ไม่มีปัญหาเลย เพราะคนมันเรียนรู้เท่ากัน แต่ของเราเนี้ยคนมันไม่เรียนรู้เท่ากัน มันจึงใส่เสื้อต่างสีกันใช่ครับพี่น้อง มันถึงใส่เสื้อต่างสีกัน แล้วก็ความคิดเห็นต่างกัน คนหนึ่งอหิงสา อีกคนหนึ่งนิยมความรุนแรง ผมจะบอกให้ว่า ระบอบทักษิณเนี้ย ประกาศต่อสู้กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่างยิบตาอันดับแรกเนี้ยแจกตัวหนอนที่เป็นปูนซีเมนต์ ใส่รถไปก่อนเมื่อวานนี้นะครับ แจกไปเรียบร้อยแล้ว นี่ๆลองชิมลางดูนะ ขนาดเราส่งคนมาแค่ 200‐300 คน เรายังจัดการพวกคุณอยู่มือเลย กลัวพวกเราหมดเลย แต่โทษที พวกมันหลงไปซัดพวกมันเองเท่านั้นเอง ใช่ไหมครับพี่น้อง พี่น้องครับเอกสารที่ผมยกอันนี้เป็นเล่มที่สอง ผมได้เรียนแล้วว่าสังคมไทยควรให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เราต้องเอาเรื่องที่เป็นบทเรียนในสังคมมาพูดกัน เล่มที่ผ่านมาเนี้ยเป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ศึกษาความเลวร้าย ของระบอบทักษิณและระบอบทักษิณสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ บ้านเมืองอย่างไรนะครับ และหนังสือเล่มนี้คืออะไร คำวินิจฉัย คำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย มีคำที่เป็นกุญแจ คำที่มีความหมายสำคัญที่สุด 2 ประโยคเท่านั้นเอง ที่ผมขอคัดมาหน้า 105 และหน้า 106 ผมคัดมาเรียบร้อยแล้วครับ เตรียมมาจากบ้านแล้ว เขาบอกอย่างนี้ครับ พรรคไทยรักไทย หรือผู้ถูก
ร้องที่ 1 มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติ ให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้า ดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง พูดง่ายๆคือหาเสียงอย่างไร มาอีกอย่างหนึ่ง แล้วก็หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ ทักษิณบอกว่าคนรวยไม่โกง แต่กูจะโกงให้มึงดู ใช่ไหมครับ เขาบอกว่าคนรวยไม่โกง แต่จะโกงให้ดูไง หาเสียงไว้บอกคนรวยไม่โกง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเครื่องเตือนใจของรัฐบาลใหม่ว่า หาเสียงอะไรไว้เนี้ย เพราะว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาไว้แล้ว นี่ประโยคที่หนึ่งประโยคที่สอง เมื่อพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล มีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พอมีอำนาจบริหารเป็นนายกแล้วเนี้ย จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤตมิชอบ หรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง กับบริหารโดยทุจริต เข้าใจไหมครับ ประกาศบอกว่า จะสุจริต สุจริต ประพฤติดี เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชน กลับทำตรงข้าม จึงเป็นอุทาหรณ์ของทุกพรรคการเมืองและรัฐบาล ว่าเข้ามาล้มหมด โดยเฉพาะถ้าเป็นรัฐบาลใหม่ การเมืองภาคประชาชนได้รับการพัฒนาแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ฮึ่มๆ กันทั้งประเทศแล้ว ระยะนี้เขาหลงทางไปจัดเลี้ยงสังสรรค์กันเฉยๆ ส่วนใหญ่เขาฮึ่มๆ กันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการเสนอความเห็นอะไร รัฐบาลใหม่ โดยเฉพาะ
พรรคร่วมรัฐบาล โปรดอย่าดูแคลนพันธมิตรฯ เดี๋ยวก็ พูดคำก็ดอนเมือง สองคำก็สุวรรณภูมิ สามคำก็ทำเนียบ ผมไม่ใช่อะไรหรอก กลัวว่าจะเป็นรัฐมนตรีที่เนรคุณคนที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง ใช่ไหมครับ
ผมไม่อยากให้ดูแคลน แล้วผมอยากจะยกสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เคยศึกษาเรื่องการโกงชาติบ้านเมืองของระบอบทักษิณไว้ เพราะว่ารายละเอียดต่างๆ จะมีคนที่ไปเสนอให้รัฐบาลอยู่แล้ว สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ 43 แห่ง พี่น้องจำได้ไหม เขามาช่วยเราใช่ไหม วันนี้เขาขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อยื่นหนังสือ แสดงว่าเขามีความคาดหวังสูงไหมครับถ้าไม่มีความคาดหวังสูง 43 รัฐวิสาหกิจเขาไม่ยื่นข้อเรียกร้องเลย เขาขับไล่เลย เหมือนรัฐบาลก่อนขออนุญาตพี่น้องประชาชน อ้างอีกนิดหน่อย เพราะวันนี้ตั้งใจจะไม่มาวิจารณ์นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่อยากจะให้กำลังใจ และฝากข้อคิดว่า ผมมีทั้งส่วนที่เป็นพรรคการเมือง และส่วนที่เป็นการเมืองภาคประชาชน เพราะฉะนั้นการวิจารณ์อะไรต้องระมัดระวัง ตอนนี้เราให้โอกาสแล้ว ผมจะบอกว่า ในหน้า 168 ขึ้นไป พรรคประชาธิปัตย์เคยกล่าวหาและก็พูดง่ายๆ ถล่มรัฐบาลทักษิณมาหลายเรื่อง เรื่องที่ 1. คือกระทำการไม่โปร่งใสในการประกอบธุรกิจของครอบครัวหลบเลี่ยงภาษีตลอดมา แสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและครอบครัว มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นการทุจริตเชิงนโยบายนี่ข้อที่หนึ่ง ข้อที่ 2. ทุจริตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ เรื่องที่สาม ที่พรรคประชาธิปัตย์หยิบขึ้นมา แสดงว่าพรรค
ประชาธิปัตย์มีข้อมูลถึงกล้าเอามาเขียนปิดคดียื่นต่อศาล ข้อที่ 3. การทุจริตจากการประมูลก่อสร้างหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งหมดตรวจสอบแล้วมี 13 เรื่อง แล้วเรื่องที่ 4. สั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (เอ็กซิมแบงก์) ปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาลพม่า เป็นเงิน 4,000 ล้าน นี่เรื่องที่สี่ เรื่องที่ 5. น่าสนใจมากครับ เป็นการท้าทายรัฐบาลใหม่เป็นอย่างยิ่ง ทุจริตเชิงนโยบาย แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปตท. การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีกลุ่มธุรกิจที่เป็นพวกพ้องกับรัฐบาลพรรคไทยรักไทยได้ผลประโยชน์จากการจัดสรรหุ้นเป็นจำนวนมากและผู้ได้รับผลประโยชน์จากการประกอบ ทำกำไรนับแสนล้านจากรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของรัฐ เพราะฉะนั้นปตท.จึงเป็นองค์กรอาชญากรรมแผ่นดิน ขณะนี้ควรจะลดน้ำมันเหลือ 12 บาท ดันอยู่ 18‐19 บาท แสดงว่ามันคอร์รัปชั่นอย่างเอิกเกริก จะบุญแก่ประเทศมาก จะสร้างคุณูปการแก่ประเทศมากหากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะจัดการให้ปตท.มาเป็นของรัฐบาล ใช่ไหมครับพี่น้อง ผมไม่ใช่พูดลอยๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องไม่สมเหตุสมผลนะครับ มันปรากฏอยู่ในเอกสารของพรรคประชาธิปัตย์เองที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเรื่องที่ 6. ครับ เรื่องการแก้ไขพระราชกำหนดกฎหมายโดยเร่งด่วน อนุมัติจัดเก็บภาษีสรรพสามิต กับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดง่ายๆ คือว่า แทนที่จะให้สัมปทานโทรศัพท์ดาวเทียม โดยหัก 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ถ้าทำรายได้ 100 บาท หักให้รัฐ25 บาท ให้มาเสียงเพียงเล็กน้อยเลย แก้ไขเป็นภาษีจากสัมปทานมาเสียภาษีสรรพสามิต ประเทศชาติเสียหายไปหลายหมื่นล้านบาท เพราะฉะนั้นทั้ง 6 ประการนี้ เป็นเรื่องใหญ่มากครับที่สังคมจะได้รอความหวังจากรัฐบาลซึ่งศึกษาเรื่องนี้ดีที่สุด ละเอียดที่สุด
ผมเลยอยากจะเรียนว่า ในวันนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังเป็นองค์กรที่ให้โอกาสนะครับ ให้
โอกาสในการทำงานของรัฐบาล แล้วให้โอกาสรัฐบาลนำพาคณะรัฐมนตรีของตนบริหารประเทศโดยความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เป็นเหตุให้เกิดความสงสัยของคนในชาติ ระยะนี้พันธมิตรฯ ได้ปรึกษาหารือกันเป็นการเบื้องต้นแล้วครับ เพียงพันธมิตรฯ อยู่เฉยๆ โดยไม่เข้าไปอุ้มชูใคร รัฐบาลก็บริหารลำบากแล้ว เพราะทักษิณประกาศสู้ยิบตา และเอาตาย อันดับแรกจัดการ นปก.200 คน มาจัดการในวันเลือกตั้งก่อน พี่น้องจำได้ไหม ต่อไปความรุนแรงจะเกิดขึ้น ถึงตอนนี้ ถ้ารัฐบาลบริหารประเทศดี คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ไม่แก้รัฐธรรมนูญ แล้วกวาดล้างระบอบทักษิณ พันธมิตรฯ พร้อมจับมือประสานเพื่อฟันฝ่าประเทศชาติ ใช่ไหมครับ แต่ถ้าบริหารประเทศแล้วเอาแต่กลุ่มของตน เอาแต่ผลประโยชน์ของตนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยยุบพรรคไว้แล้ว ระบอบทักษิณจะมาถล่มกันเอง พรรคการเมืองในสภาจะถล่มกันเอง ถึงวันนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะขออนุญาตเป็นไทยมุง เป็นผู้ดูอย่างเดียวสักครั้งได้ไหมครับพี่น้อง
พี่น้องครับ ยังอยากให้ประชาชนเฝ้าติดตามก่อน การวิพากษ์วิจารณ์ตอนนี้ในเชิงลบเป็นการเร็วเกินไป เรา
จะต้องให้โอกาสชาติบ้านเมืองในการแสวงหาทางออก ความสงบ และทางออกที่ดีโดยใช้ระบบคุณธรรมบริหารประเทศเป็นสิ่งที่เรามุ่งมาศปรารถนา ไม่เพียงแต่พี่น้องประชาชนมุ่งมาศปรารถนาเท่านั้น แต่องค์กรอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็จะเฝ้ารอวันนั้น และจะอดทนจนถึงที่สุด แต่ถ้าอดทนไม่ได้เราก็พร้อมจะเป่านกหวีด จากมโนธรรมสำนึกทางใจออกมาใช่ไหมครับ อันนี้มันเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเราไม่ต้องห่วง ผมขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกท่าน ตอนนี้ก็จำลองเหตุการณ์ไปก่อน เราคงเดินขบวนอะไรไม่ได้นะในช่วงนี้ ปรบมือกันแล้วก็จัดการกันไปก่อน ในส่วนของกรณีต่างประเทศ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็เตรียมยกชุดใหญ่ไปที่สหรัฐอเมริกา รายละเอียดผมพบ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะมาแจกแจงในโอกาสอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ แล้วในส่วนของการเดินสายต่างๆ ของเรา ผมก็เดินสายจนกระทั่งสิ้น
ปี ผมเฝ้าดูแล้ว เมื่อวานนี้ไปพูดที่เพชรบุรี เมื่อวันก่อนไปที่นครสวรรค์ มีคนฟังพอๆ กับช่วงที่เราขับไล่สมัคร และสมชายครับ แสดงว่าประชาชนยังตื่นตัวกับการเมืองภาคประชาชน การเมืองเพื่อการตรวจ การเมืองเพื่อการโค่นล้มรัฐบาลชั่ว อยู่ใช่ไหมครับพี่น้อง จิตใจนี้เรายังคงอยู่การเคลื่อนไหวของเราเป็นการเคลื่อนไหวที่มีเหตุมีผล ระยะนี้แกนนำพันธมิตรฯ ต้องตระเตรียมทำใจ เพราะถูกฟ้องหลายคดี เรียกหลายหมื่นล้าน ก็เป็นระยะพักรบ จำนวนหนึ่งก็จัดเลี้ยงกัน เฉลิมฉลองงานปีใหม่ บ้างก็บอกว่า ชนะแล้วเฉลิมฉลองชนะแล้ว ที่ภาคใต้ ที่ภาคเหนือ บ้างก็บอกว่า ยังชนะไม่สิ้น ม้วนเดียวจบยังไม่จบ เพราะม้วนนี้เป็นด้ายสายสิญจน์ มันยาวมากเพิ่งคลี่ออกมาครึ่งเดียวเท่านั้นเอง มันยาวมากมันยังไม่จบง่าย แต่เหนืออื่นใด ไม่ว่าจะจบหรือไม่
จบ แต่วิญญาณของการต่อสู้กันในเครือข่ายพันธมิตรฯ เครือข่ายพันธมิตรฯ นี่ประหลาด เป็นเครือข่ายการนับถือกันเสมือนญาติอย่างยิ่งแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในโลกนี้ ผมมีเพื่อนอยู่พังงา มีอยู่เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น แต่ผมไม่นับน้องชายผมเป็นเพื่อน เพราะน้องชายผมเป็น นปก.ครับ ผมนับถือพี่สาว ยายของผม ป้าของผม แม่ยกของผมต่างจังหวัด เป็นเครือญาติที่ผมรักอย่างยิ่ง ศรัทธาอย่างยิ่ง แต่ผมไม่นับถือน้องชายผม เพราะมันเสือกไปเป็น นปก. ก็แสดงว่า ระบบเครือญาติใหม่มันเกิดขึ้น เป็นเครือญาติอะไรครับพี่น้องประชาชนครับ เป็นเครือญาติแห่งคุณธรรม เป็นพลังทางศีลธรรมของสังคมครับ นี่คือปรากฏการณ์ที่น่าพิศวงยิ่งใหญ่ และไม่เคยปรากฏในโลกใบนี้มาก่อน ผมจึงขอสดุดีการทำหน้าที่ของวีรชน ผู้บาดเจ็บ และพี่น้องประชาชนนับล้านๆ คนโอกาสนี้เรากำลังคิดอยู่ 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 ทำยังไงเราจะโอบอุ้มและสถาปนาให้ ถ้าพี่น้องเห็นด้วยก็ปรบมือASTV กลายเป็นทีวีของประชาชน กลายเป็นทีวีการสู้รบของประชาชน อันที่ 2 เราจะเอาเครือข่ายของเรามากกว่า 10 ล้านคน มาสร้างหน่วยเศรษฐกิจร่วมกัน สร้างกำไรร่วมกัน คืนทุนร่วมกัน คืนความรู้ร่วมกัน หากเป็นไปได้เราอาจจะรับประทานน้ำกู้ชาติ ข้าวสารกู้ชาติ นะครับพี่น้อง ทุกครั้งที่ผมแวะตามปั๊มน้ำมัน ผมกระหายน้ำ หิวน้ำว่างั้นเถอะ ผมก็ไปซื้อ เขาบอกว่า ขอน้ำพันธมิตรฯ 1 ขวด พอน้ำพันธมิตรฯ 1 ขวด วันหนึ่งคนกิน 1.5 แสนขวด กำไรขวดละ 2 บาท มัน
พอเพียงที่จะทำให้ ASTV เป็นทีวีของประชาชน พอผมพักปั๊บมาที่บ้านปั๊บ ผมก็เคี้ยวข้าวแข็งกู้ชาติอย่างอร่อย ข้าว ASTV ครับพี่น้อง นี่คือสิ่งที่ผมกำลังจะบอกพี่น้องว่า มันเกิดปรากฏการณ์ 2 อย่าง 1. สร้างระบบเครือญาติใหม่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แล้วปฏิเสธชาติพันธุ์วรรณาของตนเอง ปฏิเสธเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกับผม ผมไม่ไปเลี้ยงรุ่นกับมันเลย ผมไม่ไป แล้วก็อันที่ 2. ผมสร้างหน่วยเศรษฐกิจใหม่เพื่อทำให้ ASTV และการต่อสู้ของประชาชนได้รับสถาปนาเป็นการเมืองภาคประชาชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ผมขอขอบคุณกำลังใจทุกท่าน ไว้วันใกล้ๆ ปีใหม่จะมาออกอากาศแล้วก็วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง และ
เศรษฐกิจในปีใหม่ แล้วจะมาอวยพรให้ท่านในวันนั้น วันนี้ขอบคุณพี่น้องในห้องส่งมาก มากันหลายหมื่นคนครับพี่น้องวันนี้มากันหลายหมื่นคน นะครับ ผมนับดูโอ้โหมากจริงๆ แล้วก็ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ต้อนรับในการเดินสายของเราแทบทุกจังหวัดเลย เราจะไปทุกจังหวัดเลย ไม่เว้นแม้กระทั่ง 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ไหนมีพันธมิตรฯ เราจะไปที่นั่นครับ ขอบพระคุณมากครับพี่น้องครับ__

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น